ช่างรางน้ำฝนถนนสุขสวัสดิ์ รางริน เต้นผ้าใบ กันสาดโครงเหล็ก กันสาดผ้าใบ ผ้าใบชักลอก ช่างโครงหลังคาเหล็ก งานหลังคา รับงานหลังคา
หลังคาโรงรถ ทำโรงรถ โรงจอดรถ ต่อเติมหลังคา ช่างต่อเติมโครงหลังคา
รับเหมารับติดตั้งท่อดูควันถนนสุขสวัสดิ์ ติดตั้งกันสาดสระแก้วผ้าใบ หลังคาไวนิล ตามบ้าน อาคาร โรงงาน
ออกแบบติดตั้งโครงกันสาดถนนสุขสวัสดิ์ อลูมิเนียม เมทัลชีท ผ้าใบ ติดตั้งลูกหมุนระบายอากาศ ร้านอาหาร ปล่องดูดควัน ห้องครัว รับทำรางน้ำฝน ปล่องดูดควัน
รางน้ำฝน มีความสำคัญกับบ้านเรือนในเขตร้อนชื้นอย่างพี่ไทยของเรามาก เพราะช่วยรองรับน้ำฝนที่ตกลงมาจากหลังคา ซึ่งอาจสร้างความเสียหายให้กับตัวบ้าน สิ่งปลูกสร้าง หรือแม้แต่ต้นไม้ที่อยู่ข้างล่างได้ แต่ปัจจุบันบ้านที่สร้างเสร็จใหม่ ๆ โดยเฉพาะบ้านจัดสรรตามโครงการไม่ค่อยนิยมติดตั้งรางน้ำฝนให้กับลูกค้า เนื่องจากเพิ่มต้นทุนและรูปแบบของรางน้ำฝนไม่ค่อยเข้ากับตัวบ้าน ทำให้บ้านดูไม่สวยงาม
แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อนึกถึงประโยชน์ใช้สอยของ รางน้ำฝน ที่ช่วยให้เราไม่ต้องปวดหัวจากปัญหาหน้าฝนถือว่าคุ้มค่า และควรอย่างยิ่งที่จะต้องติดตั้งหรือซ่อมแซม รางน้ำฝนเสียใหม่ ซึ่งในระยะยาวแล้วสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาบ้านลงไปได้อย่างที่ เราคาดไม่ถึง รางน้ำฝนที่เราเห็นในปัจจุบัน ส่วนใหญ่มักจะทำจากวัสดุที่เรียกว่าสังกะสีหรือสแตนเลส ซึ่งวัสดุทั้งสองชนิดนี้มีความแตกต่างกัน ดังนี้ เรามีทีมงานช่างทำรางน้ำฝนระดับขั้นเทพ
1.รางน้ำฝนสังกะสีมีอายุการใช้งานอยู่ที่ประมาณ 3-4 ปี จากนั้นก็จะเป็นสนิมผุพัง ทำให้รางน้ำฝนที่ทำจากสังกะสีต้องมีการเปลี่ยนใหม่บ่อยครั้ง แต่มีข้อดีที่ราคาถูกกว่ารางน้ำฝนชนิดอื่น
2.รางน้ำฝนที่เป็นสแตนเลสนั้นจะไม่เป็นสนิม จะอยู่ทนทานและสามารถใช้งานได้นาน ทำให้ตัวรางน้ำฝนแสตนเลสมีราคาสูงกว่ารางน้ำฝนสังกะสีเพราะคุณสมบัติดังกล่าว
3.รางน้ำฝนไวนิล รางน้ำฝนชนิดนี้จะมีราคาสูงกว่ารางน้ำฝนสแตนเลสและสังกะสีแต่ในด้านขอคุณภาพนั้นอาจมีความคุ้มค่าที่แตกต่างกัน




ช่างรับเหมาติดรางน้ำถนนสุขสวัสดิ์
ถนนสุขสวัสดิ์ (Thanon Suk Sawat) ซึ่งระยะทางส่วนใหญ่ของถนนมีฐานะเป็น ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 303 สายราษฎร์บูรณะ–พระสมุทรเจดีย์ (ในสมัยก่อนมีชื่อว่า "ทางหลวงแผ่นดินสายดาวคะนอง - ป้อมพระจุล") สร้างตั้งแต่สมัยจอมพล ป. พิบูลสงคราม ถนนนี้ตั้งชื่อนี้เพื่อเป็นเกียรติแก่ร้อยโทหม่อมเจ้าธัญญลักษณ์ สุขสวัสดิ์ นายช่างหัวหน้าการก่อสร้าง กรมทางหลวง เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2493 ตามนโยบายของรัฐบาล มีความยาวทั้งหมด 28 กิโลเมตร โดยเริ่มต้นกิโลเมตรที่ 0 นับจากสะพานพระพุทธยอดฟ้าเป็นต้นมา แต่ถนนมีจุดเริ่มต้นตั้งแต่ถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน (สะพานข้ามคลองดาวคะนอง) จนถึงป้อมพระจุลจอมเกล้า เริ่มต้นทางหลวงแผ่นดินตั้งแต่ถนนพระรามที่ 2 เป็นถนนขนาด 8 ช่องทางจราจรตั้งแต่ดาวคะนองถึงสามแยกวัดพระสมุทรเจดีย์ แล้วส่วนของสามแยกพระสมุทรเจดีย์-ป้อมพระจุลจอมเกล้ามีขนาด 2 ช่องทางจราจร